[ภาษาญี่ปุ่น] ศัพท์เคมี แปลกี่ทีก็จำไม่ได้

กราบสวัสดีรอบวงค่ะ

จริงๆวันนี้เราทำโอทีเพิ่งกลับบ้าน กินข้าวอาบน้ำ และว่าจะนอนแล้ว

ไม่คิดจะอัพบล็อกเพราะเพิ่งจะอัพไป target คือพยายามอัพเดตให้ได้เดือนละครั้ง (อ้าว!? มี target ด้วยเหรอ นึกว่าอัพไปเรื่อย)

แต่ระหว่างไถทวิตเพลินๆก่อนอาบน้ำ เราไปเห็นบางอย่างมา แล้ว “สิ่งนั้น” ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรามาอัพบล็อกในวันนี้ค่ะ เดี๋ยวจะเฉลยตอนท้ายนะคะว่า “สิ่งนั้น” คืออะไร

ตอนเราเป็นล่ามจบใหม่ๆ เราคิดว่าสิ่งที่แปลยากที่สุดก็คือไฟฟ้า (โถ…เด็กน้อย)

แต่ทำงานไปเรื่อยเราก็พบว่าสิ่งที่เราเคยเชื่อมันผิด ไฟฟ้าที่ว่ายากยังต้องสยบ เมื่อพบกับ “ศัพท์เคมี”

เราเลยอยากแชร์ศัพท์เคมีที่เราเจอบ่อยๆ หรือเจอไม่บ่อยแต่เจอทีไรก็ตายทุกที ยิ่งเจอพร้อมกับคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้ภาษาอังกฤษนะ อื้อหือ เขียนสูตรเคมีเต็มกระดานไวท์บอร์ดก็แล้วยังคุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย

元素 げんそ ธาตุ(เคมี) chemical element

元素周期表 げんそしゅうきひょう ตารางธาตุ periodic table

水素 すいそ ไฮโดรเจน Hydrogen(H)

炭素 たんそ คาร์บอน Carbon(C)

窒素 ちっそ ไนโตรเจน Nitrogen(N)

酸素 さんそ ออกซิเจน Oxygen(O)

ナトリウム โซเดียม Sodium (Na)

ケイ素 けいそ ซิลิกอน Silicon(Si)

リン ฟอสฟอรัส Phosphorus(P)

硫黄 いおう กำมะถัน Sulfur(S)

塩素 えんそ Chloride(Cl)

カリウム Potassium(K)

チタン Titanium(Ti)

マンガン Manganese(Mn)

鉄 てつ เหล็ก Iron(Fe)

ニッケル Nickel(Ni)

銅 どう ทองแดง Copper(Cu)

亜鉛 あえん สังกะสี Zinc(Zn)

鈴 すず ดีบุก Tin(Sn)

タングステン Tungsten(W)

水銀 すいぎん ปรอท Mercury(Hg)

鉛 なまり ตะกั่ว Lead(Pb)

黄銅 こうどう ทองเหลือง Brass (บางทีก็ทับศัพท์ว่า Brass)

半田 はんだ ตะกั่วบัดกรี Solder

半田付け はんだつけ การบัดกรี soldering

ロウ付け ろうづけ brazing

浸炭 しんたん Carburization

脱炭 だったん Decarburization

液体窒素 えきたいちっそ ไนโตรเจนเหลว Liquid Nitrogen

窒化 ちっか Nitriding

ガス軟窒化処理 がすなんちっかしょり Gas Soft Nitriding (GSN)

不純物 ふじゅんぶつ สารเจือปน สานไม่บริสุทธิ์ impurities

酸性 さんせい มีคุณสมบัติเป็นกรด

アルカリ性 あるかりせい มีคุณสมบัติเป็นด่าง

硫酸 りゅうさん กรดซัลฟิวริก กรดกำมะถัน

リン酸 りんさん กรดฟอสฟอริก

塩酸 えんさん กรดไฮโดรคลอริก กรดเกลือ

炭化水素 たんかすいそ ไฮโดรคาร์บอน

濃度 のうど ความเข้มข้น

化合物 かごうぶつ สารประกอบทางเคมี chemical compound

化学薬品 かがくやくひん สารเคมี chemicals

分子 ぶんし โมเลกุล molecule

反応 はんのう ทำปฏิกริยา

結合 けつごう พันธะเคมี chemical bond

加水分解 かすいぶんかい hydrolysis

親水性 しんすいせい มีคุณสมบัติชอบน้ำ hydrophilic

疎水性 そすいせい มีคุณสมบัติไม่ชอบน้ำ hydrophobic

介在物 かざいぶつ สารเจือปน สิ่งไม่บริสุทธิ์ที่เจือปนในโลหะ inclusion

Reference ตารางธาตุ ภาษาญี่ปุ่น pdf สีสวยงามปรินท์ไปแปะฝาบ้านได้

อื้อหือ… วันนี้ลิสต์ศัพท์เยอะมาก ดูมีสาระผิดปกติ แปลกไปจากที่เคยเป็น

——————–

แวะมาอีดิทเพิ่มลิงค์ที่มีประโยชน์

https://stw.mext.go.jp/series.html

โปสเตอร์วิทย์ๆ สวยงาม ข้อมูลแน่น นี่ปรินท์ตารางธาตุสอดไว้ในสมุดโน้ต เคยเอาไปแปลที่ supplier ด้วย คนญี่ปุ่นคุยกันเองแล้วงง

ฉัน (กางตารางธาตุ)

วันนี้ก็แปลเกรดทองแดง ? ถ้าใช้ภาษาอังกฤษก็จะงงๆกันนิดหนึ่ง แต่นี่เคยงงเรื่องนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน เลยไม่งง แล้วคุยเรื่อง part ที่เราเคยเห็น process เอ็นจิเนียบอกว่า “เห้ยยย ฉลาดว่ะ”

ไม่ได้ฉลาดเล้ยยย แค่เคยไปเฉยๆ ถ้าแกเคยไปแกก็รู้วววววบ์

無酸素銅 むさんそどう Oxygen Free Copper (OFC)
タフピッチ銅 Tough Pitch Copper
りん脱酸銅 りんだつさんどう Phosphorus deoxidized copper

ดูแวดวงการศึกษาญี่ปุ่นดิ… แล้วดูของไทย เห้อออออ

ถึงได้บอกไงว่าไม่ว่าจะทำอะไร ให้ความสำคัญกับดีไซน์ด้วย

เอาง่ายๆเลยพวกประกาศโควิดอ่ะ อ่านยากชิบหาย ข้อมูลก็ไม่เป็นมิตรกับคนต่างชาติ ลุงต้องคอยมาถามว่าอันนี้อะไรๆ

วิธีผ่าน JLPT N1 ฉบับคนไม่ขยัน

มองย้อนกลับไปตอนปลายปี 2013 เราสอบ N1 ครั้งแรก

การสอบวัดระดับ N1 ครั้งแรก

ตอนนั้นเราไม่เห็นวี่แววเลยว่าตัวเองจะผ่าน แต่เราก็สอบมาทุกปีนะ เพราะสมัยเรียนอาจารย์ชอบไซโคให้สอบทุกปี ก็เลยรู้สึกว่า อย่างน้อยถึงแม้จะสอบไม่ผ่าน เข้าไปนั่งสอบก็ยังดี

ใช้เวลา 3 ปี กับการสอบไปหลายครั้ง

จริงๆถ้าคนขยันและตั้งใจ ปีเดียวก็ผ่านแล้วนะ แต่เราไม่ใช่แบบนั้นไง เราเลยใช้เวลานาน

คิดว่าหลายๆคนเคยอ่านบทความ “เริ่มยังไงให้ไปได้ลื่น สู่ N1 ในรูปแบบการเรียนด้วยตัวเอง” ของคุณ FYZ เจ้าของบล็อก loverclan.blogspot.com

แต่ปัจจุบันเค้าปิดไม่เปิดให้เข้าชมไปแล้ว

เราชอบบทความของเค้ามาก อ่านแล้วรู้สึกฮึดสู้สอบมาเรื่อยๆ ถึงแม้เราจะไม่ได้ขยันขนาดนั้นก็ตาม

จนในที่สุดวันนี้ก็มาถึง…

jlptresult

วินาทีที่เห็นคำว่าผ่าน เราเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน คือมันดีใจจนพูดไม่ออกเลย เพราะการสอบให้ผ่านมันเป็น target ของเรามาหลายปี เป็นคำๆเดียวที่เรารอมานานมาก

ในที่สุดเราก็เคลียร์ target ที่ตั้งเอาไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้สำเร็จ

Target เมื่อ Oct 2015

ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องพยายามให้ผ่าน N1 หรือได้ TOEIC 900up หรอก แต่พอเห็นพี่ที่ทำงานเก่าคนหนึ่งเค้าทำได้ แถมยังทำงานเก่ง ฉลาด เราเลยยึดพี่เค้าเป็นเป้าหมาย

ตอนนั้นที่ตั้งเป้าหมายแบบนั้น เรารู้สึกว่ามันไกลมาก เราพูดว่า “อยากรู้ว่าความรู้สึกของคนที่ไปถึงระดับนั้นแล้วจะรู้สึกแบบไหน คงเหมือนได้บรรลุอะไรสักอย่าง”

แต่พอวันนี้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ เรากลับรู้สึกว่ามันแค่ก้าวแรกเท่านั้นเอง ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก

พอลองมองย้อนกลับดูถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำมา เราก็รู้สึกว่ามันมีประโยชน์นะ เลยอยากจะแชร์เพื่อให้กำลังใจคนที่ยังเดินขึ้นบันไดวัดระดับในตอนนี้ จริงๆเราก็ไม่ได้คิดว่าเราเก่งมากพอจะไปแนะนำอะไรใครได้หรอก แต่เราเข้าใจความทุกข์ทรมานของคนที่สอบหลายครั้งก็ไม่ผ่าน เลยอยากแนะนำที่เทคนิคที่ตัวเองทำมาแล้วได้ผล

1.เราไปอ่านหนังสือเรื่อง “จงถ่ายเอกสารหน้าสารบัญ แล้วคุณจะเรียนเก่งขึ้น

เราทำตามที่หนังสือเล่มนี้แนะนำอยู่ 2-3 ข้อเท่านั้น

★ให้ถ่ายเอกสารหน้าสารบัญของหนังสือ เราเลยไปถ่ายเอกสารหน้าสารบัญของหนังสือ 新完全マスター:読解 มาจริงๆ  แล้วเราก็เจอคำว่า “常識の落とし穴 กับดัก common sense” พอเห็นคำนี้เรา”อ๋อ”เลยว่าทำไมเทคนิคการทำข้อสอบแบบเลือก 4 คำตอบที่เคยใช้ได้ผลกับข้อสอบภาษาอังกฤษรวมทั้ง TOEIC ด้วยถึงไม่เคยได้ผลกับ JLPT เพราะเราเป็นคนเชื่อมั่นใน common sense ของตัวเองเสมอ ไปทำข้อสอบกี่ปีๆก็เลยโดนหลอกทุกที

★ทำข้อสอบเยอะๆ เพราะหนังสือบอกว่า โจทย์ในโลกนี้มีอยู่ 2 ประเภท คือ

1. โจทย์ที่เคยเจอมาแล้ว

2. โจทย์ที่ยังไม่เคยเจอ

การฝึกทำข้อสอบบ่อยๆจะช่วยเพิ่มพื้นที่ของโจทย์ที่เคยเจอมาแล้ว ส่วนโจทย์ที่ไม่เคยเจอก็เหมือนสนามรบที่เราต้องเตรียมพร้อม

(ฟังดูเว่อร์ๆ แต่หนังสือมันเขียนประมาณนี้จริงๆ เรายังทำได้ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก)

★เขียนบันทึกสอบผ่าน

เราเขียนบันทึกสอบผ่าน(ตอนที่ยังสอบไม่ผ่าน)ไว้ว่า…

やった! ผลสอบ N1 ออกแล้ว หลังจากบริจาคเงินมาหลายปี ในที่สุดก็สอบผ่านสักที ดีใจจังเลย ขอบคุณตัวเองมากๆที่ไม่ยอมแพ้และเรียนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ถึงจะขี้เกียจไปบ้างก็เถอะ 555+ เซนเซย์, c จังเราทำตามสัญญาได้แล้วนะ ถึงจะใช้เวลาหลายปีมากๆก็เถอะ

ต้องขอบคุณเซนเซย์มากๆที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากเก่งภาษาญี่ปุ่น เซนเซย์ช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจมาตลอดเลย จากนักเรียนที่เอาแต่นั่งหลับในชั่วโมง วันนี้เติบโตขึ้นอีกขั้นแล้วนะ เป้าหมายต่อไปคือต้องเก่งขึ้นอีก เราจะไม่หยุดพัฒนาตัวเองหรอกนะ เวลาตั้งเป้าหมายไว้แล้วทำได้จริงนี่มันฟินจริงๆ

ที่เขียนไว้ตอนสอบไม่ผ่านนี่เขียนซะดูดีเชียว พอเอาเข้าจริงๆ เราเขียนแค่

“やっとできた! ในที่สุดก็ได้มาสักที คำนี้ที่รอคอย”

2. หาแรงบันดาลใจ

เรารู้ตัวเองว่าเป็นพวกที่ “ถ้าเป็นเรื่องของตัวเอง ก็จะไม่พยายาม” ก็เลยพยายามสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองด้วยการไปสัญญากับเซนเซย์และเพื่อนคนญี่ปุ่นว่าจะสอบให้ผ่าน

การบอกคนอื่นถึงเป้าหมายของเรามันเป็นการทำพันธสัญญาอย่างหนึ่ง

คนที่เราบอกก็จะช่วยให้กำลังใจ และผลักดันให้เราสอบผ่านได้จริงๆ

ตอนเราเมลล์ไปบอกเซนเซย์ว่าเราสอบผ่าน อ่านเมลล์ที่เซนเซย์ตอบกลับมาแล้วเราน้ำตาไหลเลย

เซนเซย์บอกว่า “ครั้งหน้าที่เจอกัน เลี้ยงขอบคุณด้วยนะ”

จะเสียเงิน อยากร้อง (T^T)

ใช่ซะที่ไหนเล่า !!

เซนเซย์บอกว่าอาชีพครูมันก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เวลาเห็นลูกศิษย์เติบโตขึ้น ได้ดีใจร่วมไปกับนักเรียนแล้วมันรู้สึกดีใจมากจริงๆ ก็เลยคิดว่านี่เป็นงานที่ดีจริงๆ

3. Mentor ที่ดีจะช่วยชี้แนะแนวทางให้เรา

เป็นโชคดีของเราที่ได้รู้จักพี่ล่ามคนนึง ที่ช่วยสอนเรา คอยเล่าโน่นเล่านี้ให้ฟังเป็นภาษาญี่ปุ่น (แบบเวลาเล่าอะไรที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น พี่แกจะยกคำพูดมาเป็นญี่ปุ่นเลย ไม่แปลให้ นี่ก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง)

เวลาไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีหนังสือพิมพ์ นิตยสารภาษาญี่ปุ่นแจกฟรี พี่เค้าก็หยิบมาแล้วก็ถามเราว่าไม่หยิบเหรอ นี่ก็รู้ตัวไงว่าหยิบมาแล้วก็ไม่อ่าน แต่พอเค้าทักก็เลยหยิบ (หยิบมาก็ไม่ค่อยอ่านหรอก 555+)

ก่อนวันสอบก็เอาหนังสือมากาง นั่งอ่านนั่งติวให้เราด้วย เอาจริงๆถ้าไม่ได้พี่เค้าติวให้ ก็คิดว่าอาจจะไม่ผ่าน

พอผลออกมาก็ดีใจนะ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานหน่อย แต่ก็ผ่านได้แล้วล่ะ

ต่อจากนี้ก็คงต้องหา target ใหม่เพื่อให้ตัวเองยังคงมีแรงบันดาลใจต่อไป

ถึงแม้ว่าจะผ่าน JLPT N1 แล้วแต่ภาษาเรายังอ่อนด้อยอยู่เลย

มีเพื่อนบอกว่า ได้ N1 แล้วจะไปขอขึ้นเงินเดือนกับบริษัทมั้ย บอกตรงๆว่าไม่กล้า กลัวเค้าไล่ออกแล้วบอกว่าปัจจุบันที่ทำอยู่นี่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ดีนะ 555+

กลายเป็นว่าผ่านแล้วดันอายด้วยซ้ำ คือกลัวเค้าด่าตามหลังว่าผ่านแล้วแต่แปลได้แค่นี้เรอะ!?

โหยยยยย ก็เนื้อหาที่แปลมันออกสอบซะที่ไหนกัน ทำงานจริงๆ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ มาเต็ม แค่จำศัพท์ที่ใช้ในการทำงานสมองก็ผุหมดแล้วจ้า

จบมันซะดื้อๆแบบนี้นี่แหละ

สำหรับใครที่ยังสอบไม่ผ่านก็สู้ๆนะคะ สอบไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็ผ่านเองแหละ แต่ถ้าเสียดายค่าสอบก็อ่านหนังสือนะ

มันไม่มีทางอื่น ไม่มีวิธีอื่นจริงๆ จากใจคนที่พยายามหาทางลัดมาตลอดจนพบว่า การต่อสู้นี้ต้องสู้ด้วยวิธีตรงๆเท่านั้น

อ่านหนังสือเถอะ “ถ้าอ่าน ก็ผ่านแหละ”

Next Target

  1. IELTS 6.0
  2. ผ่อนบ้านให้หมด