สวัสดีค่ะ หลังๆมาไม่ค่อยได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับงานล่าม เพราะเริ่มหมดมุกนั่นเอง
เราเป็นล่ามในบริษัท ซึ่งก็อยู่บริษัทเดิมมาหลายปีแล้ว (และยังไม่คิดจะเปลี่ยนงาน ถ้าเขายังไม่ไล่ออก)
ก็เลยไม่ค่อยมีอะไรมาอัพเดตมากนัก เพราะยังอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ
บางทีมันก็มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเล่าได้ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ส่วนมากมักจะเป็นประสบการณ์ที่เราเจอในแต่ละวันมากกว่า ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นประโยชน์กับคนอื่น เพราะอาจจะไม่มีใครเจอสถานการณ์เหมือนเรา
ช่วงนี้ก็เลยเป็นช่วงที่กำลังเรียนรู้ความรู้รอบตัวจากวงการอื่น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นข่าวงานสัมมนาล่ามบนหน้าฟีด ฟรีด้วย รีบกดเลย กลัวเต็ม
สารภาพตามตรงว่าแทบไม่ได้อ่านรายละเอียด เห็นของฟรีก็กระโจนเข้าใส่เลย เป็นคนยังไงนี่รู้เลยนะ 555
แล้วก็บันทึกไว้ในปฏิทินในมือถือ แต่ดันลืมตั้งแจ้งเตือน ก็เลยลืมไปเลยว่ามีสัมมนาในวันนี้
แล้วเมื่อคืนรุ่นพี่สมัยมหาลัยทักมาว่า “ใส่ชุดนักเรียนกันมั้ยวันนี้”
ฉัน “อยากบอกว่า แว้บแรกคิดดีไม่ได้เลย ขอโทษ น้องใจบาป 5555”
จริงๆเรื่องของเรื่องมันมาจาก ที่มีผู้ใหญ่ในแวดวงการศึกษา(?) สักคนแนะนำว่านักเรียนควรใส่ชุดนักเรียนเรียนออนไลน์
เอ่อ… บางทีถ้าแนะนำอะไรที่มัน…. ก็เงียบไปเลยเสียยังจะดีกว่า
สุภาษิตไทยก็มี พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
มีอันหนึ่งที่เราเคยอ่านเจอแต่จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหน “บางครั้งสิ่งที่แทนความฉลาดได้ดีที่สุดก็คือความเงียบ”
อีกอันที๋ฮาร์ดคอร์นิดนึงก็ “ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครรู้นะว่าโง่อ่ะ” 55555555555
ก็เลยมีคนทำฟิลเตอร์ชุดนักเรียนมาให้ใส่ในแอพ
วิธีเล่นก็ง่ายๆ ไปโหลดแอพ Snap Camera มาก่อน
โหลดได้ที่นี่ https://snapcamera.snapchat.com/
ติดตั้งและใช้งาน เวลาจะเล่นก็เลือก device ให้ภาพวิดีโอมาจาก Snap Camera เสิร์ชฟิลเตอร์ว่า “school uniform”
ดูรายละเอียดได้ตามด้านล่างนี้เลย
เมื่อคืนเราเล่นใส่ชุดนักเรียนคอซอง แล้วตั้ง Virtual Background เป็นห้องปกครอง
ส่วนรุ่นพี่เราเลือกชุดนักเรียนคอนแวนต์ แล้วก็ถักเปียให้เข้ากับชุด
ไม่อยากบอกเลยว่าเราสองคนอายุเท่าไหร่ และกำลังเรียนหรือทำงานอะไรอยู่ 5555
แต่มันตลกกกกก สนุกมาก
ตอนเด็กๆพี่เค้าน่าจะเป็นเด็กเรียบร้อย โตมาก็เล่นใส่ฟิลเตอร์ชุดนักเรียน แล้วดื่มเบียร์
ก็คุยกันจนดึกอยู่นะ ประมาณตีหนึ่ง แล้วก็แยกย้ายกันไปนอน
นี่ตื่นมาก็สายชิว เพิ่งสั่งซื้อเครื่องบดกาแฟมาใหม่ ก็แกะกล่อง ลองเลย นั่งกินข้าวเช้าชิวๆ ชงกาแฟดริป
มาดูมือถืออีกทีตอนสิบโมง เห็นเมลล์ส่งมาตอนเก้าโมงครึ่ง แจ้งเปลี่ยนลิงค์ Zoom Meeting สำหรับงานสัมมนา แปลให้ “ว้าว” เพื่อก้าวสู่อาชีพนักแปลและล่าม
นี่ก็รีบพุ่งไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยความเร็วสูงสุด แล้วก็กดเข้าร่วมประชุม มาไม่ทันวิทยากรท่านแรก (หนูขอโทษ หนูผิดไปแล้ววววว)
ตอนเรียนนี่ไม่เคยมีแฮงค์แล้วไปเรียนไม่ไหวเลยนะ มีแต่ตื่นสายเอง คลาสแปดโมงไปไม่ทันไรงี้
พอมาเป็นผู้ใหญ่ มีเรียนออนไลน์ เนี่ย ลืมเลย ลืมสนิทเลย
เข้าใจเลยว่าเด็กสมัยนี้ที่ต้องเรียนในยุคโควิด ต่อให้อุปกรณ์พร้อม ก็ลำบากอยู่ดี แล้วประเทศนี้มีครอบครัวที่ไม่ได้มีเงินพอซื้ออุปกรณ์เท่าไหร่ มีเด็กกี่คนที่ถูกทิ้งไว้ในสถานการณ์นี้ นี่เป็นปัญหาที่กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งแก้ไข ดีกว่าการทำหลักสูตรวกไปวนมาหาสาระไม่ได้ แถมสอนให้หมอบกราบรึเปล่า?
เอาล่ะ กลับมาที่สัมมนาของเราต่อ ก่อนที่จะหัวร้อนไปมากกว่านี้
ครึ่งเช้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแปล ส่วนครึ่งบ่ายเป็นเรื่องงานล่าม
สำหรับเรา ครึ่งบ่ายสนุกมากกกก ตรงกับสายงานด้วยแหละมั้ง
ด้วยความที่เนื้อหาค่อนข้างเยอะ อาจจะค่อยๆหยิบมาเล่าในบล็อกเป็นตอนย่อยๆไป
เราอ่านหนังสือมาว่า การฝึกเขียนหรือเล่าให้คนอื่นฟังเป็นการฝึกขา output ซึ่งจะทำให้เราเก่งเร็วขึ้น
เนื้อหาแน่นมาก สนุก และเป็นประโยชน์มากๆ เราจะทยอยมาสรุปให้ฟังเป็นตอนๆไป
วันนี้เค้าสาธิตการแปลแบบพูดพร้อม ผ่านฟังก์ชั่น interpretation ในแอพ zoom ให้ดูด้วย
คุณล่ามโอ แปลคลิปนี้ให้เราฟังแบบสดๆ แบบแปลพูดพร้อม แล้วคือแปลดีมาก มีการเปลี่ยนเสียงให้เข้ากับบทพูด คุณโอบอกว่า ล่ามต้องเป็นนักแสดงด้วย
ส่วนนี่เป็นอีกคลิปที่เราไปเจอมา มีซับไตเติลภาษาอังกฤษ ตัวใหญ่ๆ แปะเอาไว้ เอาไว้เช็ค ว่าเราฟังถูกมั้ย 5555+
ช่วงท้ายของการสัมมนา จะมีช่วง คุ้ยกระเป๋าล่าม ก็คือมาดูกันว่าล่ามแต่ละคนพกอะไรไปทำงานบ้าง
ต้องเกริ่นก่อนว่าวิทยากรวันนี้เป็นล่ามที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และก็รับงานล่ามตู้ ซึ่งเป็นงานที่เราไม่เคยมีโอกาสได้ทำ และถ้าม๊โอกาสเข้ามา ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะกล้ารับรึเปล่า
แต่ตอนนี้โควิด งานล่ามตู้ก็เลยน่าจะน้อยลงเยอะ เปลี่ยนมาเป็นล่ามแปลประชุมออนไลน์แทน ก็คือไม่เป็นตู้แล้ว นั่งแปลอยู่ที่้บ้านนี่แหละ (มีล่ามท่านหนึ่งเคยแปลในรถด้วย ว้าวซ่า โมบายออฟฟิศ)
ถ้าเป็นแบบนี้เราอาจจะมีความกล้าขึ้นมาบ้าง เพราะที่ทำงานปัจจุบันก็แปลประชุมที่เป็น Conference เป็นปกติอยู่แล้ว (ส่วนใหญ่จะเป็น Voice บ่อยมากระดับช่วงพีคๆคือ 4-5 ครั้ง/สัปดาห์ วิดีโอนี่นานๆที)
เราเป็นล่ามในโรงงาน ก็เลยไม่ได้พกอะไรมากนัก ก็จะเป็นของใช้ในออฟฟิศทั่วไป แต่ัวนนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง ว่าล่ามมืออาชีพ (น่าจะแปลในตู้) เวลาที่เค้าไปทำงาน เค้าพกอะไรไปบ้าง
- กระติกน้ำร้อนส่วนตัว (น้ำร้อนสำคัญมาก)
เค้าให้เหตุผลว่าบางทีเราก็ไม่รู้ว่าหน้างานจะมีน้ำให้มั้ย หรือแก้วน้ำจะสะอาดรึเปล่า เพื่อความมั่นใจ ก็พกกระติกน้ำส่วนตัวไปเลย
อันนี้ก็เห็นด้วย ต่อให้ไม่ใช่ล่าม แต่การพกแก้วน้ำส่วนตัว กระติกน้ำส่วนตัวไปใช้ ก็ช่วยลดการซื้อ ลดการใช้พลาสติก ช่วยลดโลกร้อนได้อีก เชียร์ให้พกมากๆเลย
2. Post-it
เอาไว้จด เวลาแปลแบบล่ามสองคนคู่กัน ก็จดโน้ตส่งให้คู่ล่าม
3. ปากกา
อันนี้แน่นอน ของมันต้องมี วันไหนไม่มีน่าจะทำงานลำบาก บางคนอาจจะถึงขั้นทำไม่ได้
ส่วนตัวเราใช้ดินสอ เคยโพสไปว่าช่วงหลังๆบ้าซื้อดินสอกด เราใช้ Pentel Graph 1000 for pro จดก็ดี วาดรูปก็ได้
แต่ปากกาก็ต้องพกเหมือนกัน เพราะบางสถานที่อย่างในห้องคลีนรูม เค้าไม่ให้ใช้ดินสอ ไส้ดินสอกดอาจจะหัก หล่นลงไปในงาน กลายเป็น contamination ได้
ปากกาเราชอบใช้ปากกาหมึกซึมหัวเล็กๆ จดแล้วลายมือสวยดี (ปกติลายมือแย้แย่)
อีกอันที่ใช้แล้วชอบคือ uni jetstream 3&1 ปากกา 3 สี มีแกนดินสอกดให้ในตัว เปลี่ยนไส้ได้ เขียนลื่นมาก
จริงๆ uni ด้ามถูกๆก็เขียนลื่นนะ
4. ยาดม
อันนี้ก็ของมันต้องมี อุปกรณ์เรียกสติ 5555
อันนี้ก็อุปกรณ์โปรดเรา แรกๆก็ใช้ยี่ห้อมาตรฐานในไทย แต่มีช่วงหนึ่งได้ไปแปลที่ต่างประเทศ (มาเลเซีย กับ อินโดนีเซีย) ก็แวะร้านยาไปซื้อมา ชอบยี่ห้อ วิคส์ (อันเดียวกับวิคส์ทาแก้หวัดแหละ แต่เป็นยาดม)
อีกอันที่ชอบคือยาดมสมุนไพรที่ทำในบริษัทนี่แหละ ช่วงสงกรานต์มีกิจกรรมจากแผนกสิ่งแวดล้อม ทำยาดมฝากพ่อแก่แม่แก่ นี่จะทำไปฝากแม่ ทำตอนเที่ยง แต่เราเบรคไม่ตรงกับหน้างาน ก็จะกินเวลางานไป 15 นาที ก็ขอหัวหน้าว่าจะไปทำยาดม ลุงบอกว่าขอดมดูหน่อยนะถ้าทำแล้ว เดินขึ้นออฟฟิศมา ก็ยื่นให้ดม ลุงก็ยึดไปเลย อะไรว้าาาา
ดีนะวันนั้นได้มา 6 อัน
5.หูฟัง มือถือ สายชาร์จ
เมื่อก่อนอาจจะพกแค่มือถือกับสายชาร์จ แต่ปัจจุบันการประชุมผ่าน application มีเยอะขึ้ง หูฟังก็เลยเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ ถ้าอันที่ใช้ที่ทำงานเราก็ใช้แบบมีสายธรรมดา (ไว้ใจได้ ไม่กลัวแบตหมด)
บางทีก็ใช้ Bluetooth ตัวเล็กๆบ้าง
จริงๆมีหูฟังแบบครอบหู ของAudio Technica ตัวนึง กับ Sony ตัวที่มี Active Noise Cancelling แต่ไม่กล้าเอาไปใช้ที่ทำงาน มันใหญ่ไป เขินนน
แต่บางแผนก เดินผ่านทีนี่นึกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 555 ก็ New Normal กันไป
จริงๆเราอยากเทสหูฟังที่มี Active Noise Cancelling ในการทำงานมากเลย เพราะถ้าแปลที่โต๊ะ เสียงรบกวนเยอะมาก (เสียงเราก็อาจจะรบกวนคนอื่นด้วย)
ตอนสัมมนาเห็นเค้าโชว์รูปตู้ล่ามสมัยก่อน ที่ไม่ได้เป็นตู้ใหญ่ เป็นตู้เล็ก ครอบแค่ร่างกายท่อนบน เอ้อ เกร๋ๆ ถ้าทำอุปกรณ์กันเสียงแบบครอบแค่ร่างกายท่อนบนตัวเองกับคอมมาใช้ที่ทำงานจะดีมั้ยนะ คนจะหาว่าบ้ารึเปล่า
6. สมุดโน้ต
ใช้จดนัดหมาย จดเวลาแปล บางแบบมี convert ปี พ.ศ. / ค.ศ.
มีหลากหลาย เลือกได้ตามความต้องการ
อันนี้ส่วนตัวเราใช้กระดาษรียูส ใช้เสร็จก็ทำลาย เป็นเครื่องกำจัดกระดาษรียูสประจำแผนก แต่ก็ใช้ตามข้อกำหนดของบริษัทนะ ดรออิ้งไม่ได้ เอกสารที่มีเรื่องเงินๆทองๆไม่ได้
7. กล้องส่องทางไกล
อันนี้สำหรับล่ามตู้ บางทีตู้ล่ามอยู่ท้ายห้องประชุมใหญ่ๆ แบบห้องประชุมในโรงแรม มองสไลด์ไม่เห็น มอง flip chart ไม่เห็น จะวิ่งไปดูแล้ววิ่งกลับมาแปลก็คงไม่อัน
อันนี้เปิดโลกเรามาก ล่ามปกกล้องส่องทางไกล เท่ๆเลย
8. ของกิน
อันนี้เราก็มี จะเป็นพวกคุกกี้ หรือซีเรียลบาร์ มีติดโต๊ะไว้ เติมน้ำตาลเข้าไปหน่อย หรือบางทีต้องแปลประชุมต่อยาวๆ ไม่ได้เบรครอบก่อนโอที ถ้าท้องหิวจะแปลไม่ค่อยออก ก็ได้พวกคุกกี้ ขนมเล็กๆน้อยๆนี่แหละช่วยชีวิต
จริงๆตอนเรียนล่ามอาจจารย์ให้ดูวิดีโอ ล่ามตู้จะพกช็อกโกแลต อีกหนึ่งอุปกรณ์เรียกสติ แต่เราว่าอากาศประเทศไทย ใส่ช็อกโกแลตไว้ในโต๊ะไม่ค่อยเหมาะ เราเลยชอบพวกคุกกี้ หรือซีเรียลบาร์
9. ลูกอมและอุปกรณ์ดับกลิ่นปาก
ประโยชน์สองอย่าง ดับกลิ่นปากด้วย เรียกสติด้วย แบบว่าล่ามตู้ บางทีอยู่กันสองคน ในห้องแคบๆ เรกา็ต้องเซฟเพื่อนร่วมงานกันนิดหนึ่ง
ส่วนล่ามประจำโรงงานอย่างเรา นอกจากลูกอมกับอุปกรณ์ดับกลิ่นปาก ที่โต๊ะเราก็จะมีมีแปรงสีฟัน กับยาสีฟัน แปรงฟันตอนพักเที่ยง
บางทีตอนเช้า ถ้ากินอาหารเช้าที่รู้สึกว่ามันจะมีกลิ่นก็แปรงอีกรอบก่อนเข้างาน
อย่างช่วงนี้ใส่แมส ก็ดมของตัวเองวนไป 555+
จริงๆเรื่องกลิ่นปาก มันจะมีบางคนที่มีหินปูนเกาะต่อมทอนซิล เป็นก้อนๆขาวๆ ที่มันมีวิธีเอาออกอยู่ เค้าว่าเหม็นบรรลัยเลย
อันนี้ก็พยายามอ้าปากดูนะเวลาแปรงฟัน แต่ก็มองไม่เห็น หรือดูผิดตำแหน่งก็ไม่รู้
เอาเป็นว่าสำหรับล่าม เรื่องกลิ่นสำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกก
พี่ล่ามที่ทำงานเก่าเราก็สอน ว่าต้องคอยดูแลสุขภาพปากและฟันให้ดี
ลูกอมนี่แล้วแต่ชอบ วันนี้ในสัมมนา มีคนแนะนำยี่ห้อสหายเพื่อนนักตกปลา อันนั้นเราก็ชอบ
แต่จริงๆถ้าไปญี่ปุ่นเอง หรือลุงกลับบ้านประจำปี แกก็จะซื้อมิ้นเตี้ยมาฝาก เราชอบมิ้นเตี้ยมากกว่าสหายเพื่อนนักตกปลา เพราะเม็ดเล็ก อมหมดเร็ว อมแล้วแปลต่อได้เนียนๆ ไม่กลัวติดคอ
มีคนแนะนำกำกิกเผี่ยงมาด้วย อันนี้ก็ดีเวลาเจ็บคอ แต่บางคนอมมากๆก็ลิ้นชา ตัวนี้เราจะใช้เฉพาะเวลาป่วย
แต่ทั่วไปก็สหายเพื่อนนักตกปลา มิ้นเตี้ย หรือลูกอมกลิ่นมิ้นท์ (ความชอบส่วนตัว ชอบฮิตโต้กับไดนาไมต์ เป็นคนชอบไอติมช็อคมิ้นท์)
10. ปากกาไวท์บอร์ด – บางทีเวลาแปล แล้วอาจจะต้องวิ่งไปเขียนบอร์ด จะได้มีปากกาส่วนตัว ไม่ต้องมาคอยหา
นี่อยู่ในโรงงาน มีปากกาที่ไวท์บอร์ดทุกอันอยู่แล้ว แต่บางทีก็อาจจะเจออันที่เขียนไม่ติด คิดว่าถ้าพกไว้บ้างก็จะดูพร้อมกับสถานการณ์ แต่อันนี้เราไม่ได้พก เพราะรู้อยู่แล้วว่าที่ทำงานค่อนข้างมีใช้แบบไม่ขาดแคลน แต่ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ เราไม่รู้ว่าเราจะเจออะไรบ้าง พกไว้ก็ดูมีประโยชน์ดี
11. ช้อนส้อมส่วนตัว – อันนี้ก็คิดว่าดีมาก เพราะบางที เราอาจจะได้มาแค่ข้าวกล่อง ไม่ได้ช้อน เพื่อป้องกันการใช้มือกิน พกช้อนส้อมส่วนตัว หรือช้อนส้อมพลาสติกติดตัวไว้ ก็สบายใจได้เยอะ
นี่ก็มีช้อนสั้นกับช้อนยาวไว้ที่โต๊ะ บางทีมีคนให้ขนมที่ต้องตักกิน แล้วส่วนมากเราห่อข้าวไปกิน ถ้าวันไหนห่อข้าวไป แต่ลืมเอาช้อนไป ก็ยังมีช้อนสำรองไว้ในลิ้นชักโต๊ะ
12. กระดาษกาว – วิทยากรบอกว่าเอาไว้แปะพวกเอกสาร แปะยึดสายไฟของอุปกรณ์ในตู้ล่ามไม่ให้เกะกะ แปะบังไฟแยงตาในโรงแรม แปะโน้ตส่งให้เพื่อน แบบกระดาษกาวถูกๆ กาวธรรมดา ไม่เหนียว ไม่ทิ้งรอย ไม่โดนโรงแรมด่า เอ้อ เริ่ดอยู่นะ
13. พัดลมส่วนตัว – บางทีในตู้ล่าม มันร้อน ไม่มีลม มีแต่พัดลมดูอากาศออก การพกพัดลมส่วนตัวเอาไว้ก็ช่วยเซฟชีวิตเราและเพื่อนร่วมงานได้
สำหรับเราที่เป็นล่ามโรงงาน ก็มีพัดลมอยู่ที่โต๊ะ (พักเที่ยงเขาปิดแอร์ไง) กับมีพัดแบบแมนนวล ชอบแบบพับ บางๆ เบาๆ ใส่กระเป๋าเสื้อลงไปหน้างานด้วย วันไหนร้อนๆก็ช่วยได้เยอะ
ปล. แถมท้ายนิดหน่อย เราจะค่อนๆทยอยมาเล่าแหละ แต่มีเรื่องนึงที่ติดอยุ่ในใจ คือช่วงบ่าย วิทยากรคนแรกคืออาจารย์อัครินทร์ สถิตย์พัฒนพันธ์
เค้ามาเล่าภาพรวมเกี่ยวกับงานล่ามให้ฟัง แล้วเป็น 30 นาทีที่เล่าได้สนุก ฟังเพลิน ไหลลิ่นไม่มีสะดุด เสียงน่าฟัง อุปกรณ์น่าสนใจ เค้าเล่าผ่านหนังเกี่ยวกับล่ามแหละ เราเคยดูแค่ The Interpreter
อีกอันที่เหมือนนักรบโรมัน ฆ่าล่ามก่อน (แกลดดิเอเตอร์เหรอ? หรือ 300? อันนี้ผ่านๆตา แต่ไม่ได้ติดอะไรเรื่องล่าม)
แต่ที่สะดุดคือ หนังเกี่ยวกับล่าม ต้องไปแปลภาษาเอเลี่ยน ว้าวซ่า อยากรู้เลยว่าเรื่องอะไร ก็เลยไปเสิร์ชมา เก็บเข้าลิสต์แล้ว อยากดูเลย
ลิงค์แหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ น่าไปอ่านต่อ หลังจากฟังสัมมนาวันนี้
https://www.prettycat.co/ บล็อกว่าด้วยโปรแกรมช่วยแปลและเทคโนโลยีการแปล