ถ้าถามว่าวันหยุดปีใหม่ไปไหน คำตอบก็คือ อ่านหนังสืออยู่บ้าน 5555+
เอาจริงๆอ่านไม่ทันแล้ว ตอนนี้เป้าหมายต่อวันโหดมาก วันละบท แล้วบางบทนี่คือ ร้อยหน้า!!
นี่ขนาดวางแผนขนาดนี้แล้วยังแทบไม่ทันอ่ะ แผนเดิมมันโหดมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยแหละ เทอมนี้ลงแต่วิชาหนักๆ แถมมีภาคพิเศษอีก เต็มแม็กซ์ 4 ตัวไปเลย งงมากว่าคนที่เรียนทั้งป.ตรีกับสัมฤทธิบัตรควบกันให้จบไวๆ เค้าเอาเวลาไหนนอน หรือไม่นอน?
เมื่อเช้ามีคำถามน่าสนใจจากทางบ้าน (บ้านมัน ไม่ใช่บ้านเรา) มาจากน้องที่รู้จักกันผ่านการติ่งไอดอลนี่แหละ จริงๆมันเด็กกว่าปีเดียว ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ แต่มันบอกว่าขอเรียกพี่ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นอี+(ชื่อเรา) ต้องสองพยางค์ไง เออ พี่ก็ได้วะ!
คำถาม “พี่ว่าคนที่ชอบอวด เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองต่ำมั้ย? หรือเพราะมั่นใจในตัวเองสูงก็เลยอวด”
ถือว่าถามถูกคน นี่ก็ขี้อวดอยู่นะ ก็ตอบไปว่า “คิดว่าต่ำ”
เราให้เหตุผลว่า ถ้ามั่นใจก็คงไม่อวดมั้ง น้องคนนี้เคยแชร์พอดคาสต์ให้เราฟัง เป็นปีแล้ว ชื่อพอดคาสต์อะไรไม่รู้ แต่มีคำว่าหรรมใหญ่ (ภาษาอังกฤษ) ประมาณว่าคนหรรมใหญ่จริงจะไม่อวด แต่พวกหรรมเล็กจะชอบอวด นี่ก็ไม่ได้เข้าไปฟังหรอก พอดคาสต์เป็นอังกฤษ ขี้เกียจฟัง ง่วง 555+ ตอนนี้คิดจะฟังก็ลืมชื่อไปแล้ว
ขอเขียนในรูปแบบนิยายแชทแล้วกัน น่าจะเป็นวิธีเล่าเรื่องที่เราถนัดสุด (เราเป็น B นะ)
A: เพื่อนบอกว่า เพราะเค้ามั่นใจว่าเค้าดีเลยอวดรึเปล่า
B: คิดว่าคนมั่นใจอ่ะจะไม่อวด เพราะตัวเองก็อวดเรื่องที่ตัวเองไม่มั่นใจ ถ้าเรื่องที่มั่นใจจะไม่พูด
A: คนที่ถ่ายรูปตัวเองใส่ชุดว่ายน้ำ หรือผู้ชายมีกล้ามก็อัพรูปกล้าม แปลว่าเค้ามั่นใจเลยโชว์รึเปล่า หรือมันคนละเคสกับความสามารถ
B: อันนั้นเค้าหมดไปเยอะเลยต้องโชว์รึป่าว แบบลงทุน ลงแรงอ่ะ คือไม่ใช่ว่ามั่นใจหรือไม่นะ แต่ที่ลงเพราะชอบเวลามีคนมาชมว่าสวยหรือมีกล้ามไง จะได้มั่นใจมากขึ้น เป็นกำลังใจในการออกกำลังกายรึป่าว
A: เป็นไปได้ ก็จริง
B: อาจจะมีคนอวดเพราะว่ามั่นใจก็ได้ แต่โดยส่วนตัวนี่คิดว่าส่วนมากจะอวดเพราะไม่มั่นใจมากกว่า เหมือนขอความสนใจ ขอความเห็นจาก social network ก็คืออยากได้รับการยอมรับจากสังคมอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มั่นใจอยู่แล้ว ก็จะทำไปเลย
A: เชี่ย จริง เป็นคำตอบที่เห็นภาพมาก คิดถูกแล้วที่ถามพี่
B: งงๆหน่อย แต่ก็เออ.. เมิงชมใช่ป่าววะ
A: ทำให้สิ่งที่มันเป็นนามธรรมดูเป็นรูปธรรมได้ ประมาณนั้น
B: โอเค ถ้าต้องสัมภาษณ์งาน จะเอาไปบอกว่านี่เป็นข้อดีก็แล้วกัน
A: ก็มันจริง
B: เพราะว่าทำงานกับการสื่อสารล่ะมั้ง แบบเวลาแปล ผู้บริหารพูดไม่จบประโยค พูดงงๆ แต่เราไม่อยากให้คนฟังงง บางทีก็ต้องเติมให้
A: เหมาะที่จะเขียนหนังสือนะ <— ไฮไลท์ตรงนี้ ที่เขียนมาก็คืออยากจะไฮไลท์ตรงนี้ 555
นี่ก็คือความขี้อวดแบบนึง ยอมรับ
คือจริงๆมันฟันธงไม่ได้หรอก ว่าอวดเพราะมั่นใจ หรือไม่มั่นใจ ต้องดูเป็นเคสๆไปอ่ะ บางเรื่องที่มันน่าภูมิใจ มันก็น่าอวดนะ เราว่าดีนะ แบบบางทีมันก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ เท่จะตาย
สำหรับเรา ตัวเองเองอวดเพราะไม่มั่นใจไง ตอนเด็กๆรู้สึกว่า คำว่า “ทะเยอทะยาน” เป็นสิ่งไม่ดีเอาซะเลย ก็เลยแบบกดๆๆๆตัวเองลง แต่โตมาก็ได้เรียนรู้ว่า เห้ย ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งที่ดีถ้าเอามาใช้อย่างเหมาะสม นี่ก็เลยต้องคิดใหม่ เริ่มพูดอะไรที่คิดมากขึ้น เริ่มเขียนออกมา เพราะต้องการหาคน Discuss ด้วยก็ส่วนนึง ไม่งั้นคนซวยจะเป็นคนใกล้ตัว ต้องมาฟังมันพูดอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งบางทีตัวเองก็ยากจะอธิบายให้คนเข้าใจเหมือนกันว่าต้องการจะสื่ออะไรน่ะ
นี่เป็นคนพูดไม่เก่งจริงๆนะ (คนละเรื่องกับพูดมาก) ปีหน้าคิดว่าอยากลองฝึกทำ podcast อยู่เหมือนกัน จะได้ฝึกสร้าง output ที่เป็นการพูดอ่ะ เหมือนเวลาเรียนในโรงเรียนเราได้ฝึกแต่ input
ตอนนี้ก็ฝึก output เรื่องการเขียนเรื่อยๆ ก็ดีขึ้นอยู่นะ แต่เรื่องพูดนี่แหละที่รู้สึกว่าเป็นทักษะที่อ่อนสุด ควรปรับปรุง
ตอนนี้ในไอจีก็คือเราลงอวดเรื่องอ่านหนังสือ ว่าได้กี่หน้า ได้ตามเป้าหมายมั้ย เพราะเหมือนรายงาน progress สำหรับเราการอ่านหนังสือเรียนมากขนาดนี้เป็นงานที่ยากมาก เราไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะทำได้ ก็เลยอวดมั้ย? คือเหมือนพอพูดมันออกมาแล้วจะกระตุ้นตัวเองหน่อยๆ คงไม่ได้อวดเรียนมั้ง คือถ้ามีคนมาถามว่าอยากเรียนมั่ง นี่ก็จะบอกก่อนว่าหนีไป หรือไม่ก็ถามว่าพร้อมจะเหนื่อยรึยัง สำหรับเรามันเหนื่อยจริงไง ไม่ห้ามหรอก แต่แค่อยากให้เข้าใจจริงๆว่าแบ่งเวลาให้ได้ ถ้าแบ่งได้ก็เรียนได้ แต่ถ้าแบ่งไม่ได้ก็อย่าเรียนเลย เสียดายค่าลงทะเบียน
จริงๆในทวิตก็มีคน DM มาถามเรื่องเรียนนิติ มสธ. คิดว่าเรียนจบหรือก่อนเรียนจบ จะเขียนไกด์ไลน์ไว้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น
คำถามที่เค้าถามก็จะประมาณว่า ถ้าทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจะไหวมั้ย นี่ก็ถามกลับว่า เราอ่านหนังสือวันละประมาณ 40 หน้า เกือบทุกวัน (แต่ไม่ทุกวัน) คุณคิดว่าคุณทำได้มั้ย
คือพยายามทำสิ่งที่วัดไม่ได้ให้วัดได้แหละ สำหรับเรา 1 ชั่วโมงเราอ่านได้ประมาณ 20 หน้า ถ้าสมาธิดีๆ (แต่ส่วนใหญ่ไม่) ก็เลยคิดว่าถ้าจะเรียน ก็น่าจะมีเวลาให้การเรียน วันละ 2 ชั่วโมง (แต่จริงๆน้อยกว่านี้แหละ)
อันนี้ลงเรียนเพราะตอนนั้นติ่งไอดอล ก็ไปลงทะเบียนเรียนเลย ทู่ซี้เรียนมาแบบหน้ามึนๆ ก็สอบไม่เคยตก แต่เกรดก็คือแค่ผ่าน (มสธ.ตัดเกรดแค่ H=ดีเยี่ยม S=ผ่าน U=ไม่ผ่าน) นี่เหลือสอบอีกสามตัว กับลงวิชาสุดท้ายที่เป็นประสบการณ์วิชาชีพ กับไปสอบภาษาอังกฤษก็จะจบตรีอีกใบแล้วล่ะ เอาจริงๆมันก็ไม่ได้มีประโยชน์ในสายงานขนาดนั้น แต่ก็คิดว่ามันก็ได้ความรู้ดี
จริงๆอยากลงเพิ่มพวกวิชากฎหมายภาษีอากร ตอนแรกจะลงสัมฤทธิบัตรรอบนี้เลย แต่คิดไปคิดมาก็ นอนก่อนเหอะ เดี๋ยวตาย
เนี่ยลงเรียนแบบเรื่อยๆเลยนะ มีหยุดลงไปเทอมนึงด้วย ปวดหลัง ดรอปเลย ค่าเทอมไม่เท่าไหร่ ค่าเก้าอี้ Ergonomics หมอนรองหลัง ที่ตั้งหนังสือ ไม้นวด บลาๆ อันนี้แหละแพง 5555+
จะว่าไปเราเริ่มตามวง BNK48 มาจากบัตรจับมือฟรี ที่เพื่อนให้มา เราเลือกจับมิวสิค เป็นแปดวินาทีเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้เรามาเรียนป.ตรีกฎหมายอีกใบ
แล้วก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่ แบบอย่างน้องคนนี้ ที่ชอบมีคำถามน่าสนใจมาถาม ทำให้เรามีอะไรมาเขียนบล็อก 555
หรือคุณ L ที่ชอบป้ายยากันไปมา จาก Black Friday ของซัมซุง นี่ซื้อมือถือตามเค้า ป้ายยากันไปมา เป็นสาวกกาแล็กซี่ด้วยกันเลย ทั้งมือถือ สมาร์ทวอช หูฟัง 555+
หรือคุณ G ที่เรียนออนไลน์กับเราจากโปรเจคโดเนทมิวสิครอบ World Senbatsu ทำให้เราได้ฝึกสอนออนไลน์ตั้งแต่ก่อนโควิด แล้วก็ซื้ออุปกรณ์มาเรื่อยๆ ตอนมสธ.สอบออนไลน์ นี่ก็กล้องพร้อมมาก 555+
ตอนนี้คือมีกล้อง webcam มีแท็บเลตแบบเขียนจอได้ คือพร้อมสอนออนไลน์มาก ติดอยู่อย่างเดียว ไม่มีเวลานอน 5555+
ขอเรียนนิติของตัวเองก่อนแล้วกัน
จริงๆคุยกับรุ่นพี่มหาลัยไว้ บางทีดึกๆก็มีโนมิไกทาง Zoom นั่งกินเหล้าบ้านใครบ้านมันนี่แหละ เออ ชอบนะ ถูกใจคน Introvert ไม่อยากออกจากบ้าน แต่ก็อยากดื่ม 555
เพิ่งไปเจอเพื่อนมาก็คิดว่าควรทำอะไรที่มันเป็นการพัฒนาอาชีพตัวเอง แต่อีกใจก็แบบ ทำอะไรก็ทำไปเหอะ เอาที่ทำแล้วสบายใจไม่เดือดร้อนใครอ่ะ อย่างนี่ติ่งไอดอลก็คิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้ลองทำอะไรหลายอย่างมากๆ ซึ่งสำหรับเรา เราว่ามันดีนะ
แล้วก็คิดว่าการเล่าว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ก็เป็นเรื่องที่ดี คือบางทีมีฟีดแบคมันก็เป็นกำลังใจอ่ะ อย่างบล็อกเนี้ย เราทำมา 7 ปี เราชอบมาก มันเป็นบล็อกที๋โคตรจะเป็นตัวเรา เขียนแบบไม่สนยอด Engagement อะไรเลยแต่เราแฮปปี้นะ ปีนี้ยอดวิวทั้งปีน้อยกว่าปีที่แล้วอีก แต่เรารู็สึกว่าคอมเม้นที่เราได้อ่ะ มันมีค่ามาก ยิ่งสิ่งเล็กๆที่เราทำอยู่ มันมีประโยชน์กับคนอื่น โคตรดีใจ ใจฟูของแท้ นั่งปลื้มไปอีก