[บันทึกหลังอ่าน] มหาสมุด

มหาสมุด – วันเฉลิม วัฒนวรกิจกุล
นวนิยายเข้ารอบ รางวัลนายอินทร์อะวอร์ด

พักหลังๆไม่ค่อยได้อ่านนิยายเท่าไหร่ อ่านแต่หนังสือเรียนกับหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง ซึ่งไม่ถูกจริตเอาเสียเลย สำหรับเรา หนังสือพัฒนาตัวเองก็เหมือนหนังสือเรียน

นั่นก็คือ… หลับสบายเลยยยยย 55555

แค่ถ้าเป็นนิยายเราอ่านได้ค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว นี่ก็ใช้เวลาหลังเลิกงาน อ่านรวดเดียวจบ

อ่านแล้วก็คิดถึงตอนตัวเองเด็กๆ ที่ชอบยืมหนังสือมาเยอะๆ แล้วก็นั่งอ่านนอนอ่านอยู่อย่างนั้น จนช่วงใกล้สอบแม่แทบจะเอาหนังสือที่ยืมมาไปซ่อน แต่ทนเราโวยวายไม่ไหว 555555

หนังสือเป็นเรื่องของหญิงสาวผู้ลาออกจากงาน สมัครงานอยู่หลายที่ สุดท้ายก็ได้งานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดของมหาลัยเอกชน ทั้งๆที่เป็นคนอ่านหนังสือได้ไม่เกินสามบรรทัด

การทำงานที่ไม่ชอบทำให้ได้พบเจอเพื่อนใหม่ โลกใบใหม่ และได้เจอผู้คนที่กลายเป็นความสบายใจ

ทั้งๆที่ปรับตัวให้เข้ากับที่ทำงานใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ได้แล้วแท้ๆ แต่ห้องสมุดกำลังจะถูกปิดเพราะผู้บริหารมหาลัยต้องการนำพื้นที่ไปทำอย่างอื่น

หนังสือพิมพ์เมื่อปี 2555 ก็ผ่านมา 6 ปีแล้วล่ะ

ปัจจุบันความนิยมในการใช้งาน e-reader หรือการอ่านหนังสือในรูปแบบของ e-books ก็เพิ่มมากขึ้น

เรายังซื้อ kindle เลยแล้วก็ชอบด้วย แต่บางทีก็อ่านในไอแพด เพราะแอพที่ใช้อ่านหนังสือบางค่ายมีในไอแพด แแต่ใน kindle ก็จะอ่านได้เฉพาะหนังสือที่มีบนสโตร์ของตัวเอง หรือบางทีก็แปลงไฟล์ pdf ที่มีอยู่แล้วใส่เครื่องแล้วอ่านแนวนอนเอา

สำหรับเรา kindle เอาไว้เข้าถึงหนังสือภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ, ญี่ปุ่น แต่เอาจริงๆก็อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศไม่จบสักเล่ม อ่านแต่ภาษาไทยอ่ะ

แต่เราชอบใช้ kindle โหลดตัวอย่างหนังสือภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุนมาอ่าน เพื่อตัดสินใจว่าจะซื้อฉบับแปลไทยดีรึเปล่า

ส่วนใหญ่ที่ใช้ kindle น่าจะใช้กดสั่งการ์ตูนภาษาญี่ปุ่น แต่หลังๆก็ชอบเปิดในไอแพดเพราะจอใหญ่กว่า แต่จะให้ไปซื้อ e-reader ที่ใช้ e-ink แบบ kindle แต่จอใหญ่กว่าก็รู้สึกว่าจะแพงเกินไป

ซื้อมาด้วยความหวังว่าสักวันตัวเองจะอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษมากขึ้น แต่ทำยังไม่ได้ 55555

เอาง่ายๆแค่กองดองภาษาไทยก็ 100++ แล้ว ตอนแรกบอกกับตัวเองว่าถึงร้อยเล่มจะเลิกซื้อ แต่มันหยุดไม่ได้จริงๆ ซื้อมาไว้แล้วยังไม่ได้อ่าน ดีกว่าอยากอ่านแล้วหาซื้อไม่ได้

ไม่เกี่ยวอะไรกับนิยายที่เพิ่งอ่านไปเลยแฮะ แต่มีตัวละครตัวนึงเป็นยัยคนสวยที่รักหนังสือจนโอเว่อร์และชอบใช้กำลังถ้ามีคนไม่เคารพหนังสือ ก็คิดว่าเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ดีนะ

ไม่ใช่นิยายรัก ไม่มีเรื่องความรักเลย เป็นเรื่องของคนที่มาเจอกัน มาเติมเต็มในส่วนที่ขาด โดยมีฉากเป็นห้องสมุดของมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้นเอง

พิมพ์ หญิงสาวผู้เปลี่ยนงานบ่อย อ่านหนังสือเกินสามบรรทัดไม่ได้ แน่นอนว่าทำงานในห้องสมุดได้ไม่ดีนัก

มาเจอกับแอน หญิงสาวผู้รักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ

เจอกันวันแรกแอนก็ตบพิมพ์เต็มแรง โทษฐานเหยียบหนังสือในห้องสมุด

แต่พอเวบาผ่านไปเรื่อยๆ สองคนที่โคตรแตกต่าง ก็เรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนกัน

ถึงแม้พิมพ์จะยังทำงานไม่เก่ง แต่แอนก็คิยช่วยอยู่เสมอ (ถึงคำพูดคำจาของยัยคนสวยจะน่าหมั่นไส้ก็เถอะ)

วันนี้ไปอ่านบทความใน medium มา เจอคาถามือใหม่

“ฉันกำลังเรียนรู้” เอ้อ เป็นคำง่ายๆที่เราชอบนะ ถ้าทำอะไรผิดพลาดไป เรากำลังเรียนรู้อยู่ เราจะทำให้ดี จะแสดงให้ดู

หนังสือเรื่องนี้ก็สะท้อนความพยายามนั้นของพิมพ์ออกมาให้เห็นได้ดี

บางทีเราก็ต้องยอมรับว่าเรานั้นไม่เก่ง เต็มไปด้วยข้อบกพร่องมากมาย ต้องยอมรับก่อนเพื่อนจะขัดเกลาตัวเองให้เก่งขึ้น

ในบางสถานการณ์เราอาจจะเป็นคนที่เก่งกว่า แต่เราควรใจดีและมีน้ำใจกับมือใหม่

ตอนเด็กเราไม่เข้าใจสติ๊กเกอร์มือใหม่หัดขับ เราคิดแค่ว่า ติดสติ๊กเกอร์แบบนี้ก็ยิ่งสะดุดตา เดี๋ยวก็โดนแกล้งเอาหรอก แต่พอโตมาเราก็ได้รู้ว่า ถ้าคนอื่นรู้ว่าเรามือใหม่ คนส่วนใหญ่ก็จะใจดีนะ ต่อไปถ้าเจอเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆ ถ้าเป็รมือใหม่ ก็จะทำตัวเป็นมือใหม่ที่ดี ถ้าเป็นคนที่เก่งกว่าในเรื่องไหน ก็จะพยายามใจดีกับมือใหม่เข้าไว้

เราว่าเรื่องนี้สนุกนะ ซื้อมาจากกองหนังสือลดราคาในเว็บ แล้วก็รู้สึกว่าก็อ่านสนุกดี
เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชอบห้องสมุดอยู่แล้วด้วยแหละมั้ง แต่หลังๆไม่ได้เข้าเลย โควิดเอยอะไรเอย

จริงๆเคยเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชน(แต่บัตรหมดอายุไปแล้ว) ค่าสมาชิกสิบบาท ยืมได้ครั้งละสี่เล่ม อาจจะเก่าหน่อย แถมร้อน มีแอร์แต่ไม่เปิด (เข้าใจแหละว่าเซฟค่าไฟ) ก็เหมือนห้องสมุดประชาชนทั่วไป แต่เราก็ชอบบรรยากาศที่นั่นนะ

ยังคิดอยู่เลยว่าอยากไปสมัครเป็นบรรณารักษ์วันเสาร์อาทิตย์ แต่กลัวไปเพิ่มภาระเขา เราเคยเรียนระบบดิวอี้มานิดหน่อย แต่จำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าจะบอกว่าชอบกลิ่นกระดาษ กลิ่นหนังสือ ก็เคยอ่านเจอมาว่าจริงๆมันคือกลิ่นเชื้อราแหละ (แหวะ)

ตอนนี้ก็เลยทำได้แค่สะสมหนังสือของตัวเอง

เพิ่งคืนหนังสือที่ยืมเพื่อนมา ตอนเอาไปคืนเพื่อนบอกว่า ก็เยอะอยู่นะ คือยืมไปหลายเล่ม แล้วอ่านจริงๆ

อ่านอะไรต่อดี…. (จริงๆเราก็ยังไม่ได้อ่าน แต่เป็นชื่อหนังสือที่นึกออกแล้วคิดว่าน่าอ่านต่อ)
ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ
หลากเเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ

แต่จริงๆเราคงไม่ได้อ่านตามลิสต์นี้ อาจจะต้องอ่านพวกแนวพัฒนาตัวเองต่อไป เอาไปช่วย user คิด เวลาทำเอกสารพรีเซ้นต์สอบเลื่อนตำแหน่ง เอาไปเป็นแนวคิดเวลา Q&A เอาจริงๆคือเสือกมาก ไม่ใช่หน้าที่ล่ามเลย แต่ต้องขอบคุณ user ที่ยินดีรับฟัง พี่คนหนึ่งที่เราแปลให้ก็บอกว่าได้ไอเดียจากเราเยอะอยู่ ถ้าอยู่บ้านใกล้ๆคืนนี้ต้องมี drink-drunk กันแล้ว

ด้วยความเค้าเป็นคุณแม่ลูกสอง มีลูกสาวสองคน ลูกสาวคนโตชอบวาดรูป ก็เลยเอาเรื่องเราไปเล่า น้องก็ดูจะสนใจว่าเราทำอะไร แม่เค้าก็เลือกเล่าแต่สิ่งดีๆ ดีเกินจริง ดูเป็นไอดอลของเด็กอยู่นิดหน่อย

แง… อยากบอกว่า น้องงงงง หนีไปปปปป อย่าโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ 555555555

Leave a comment